การส่งออกเหล็กสำเร็จรูป (finished steel) ของจีน ในเดือนกันยายน แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ไม่เคยมีมานับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2016 มีปริมาณรวมที่ 10.153 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลของศุลกากรจีนที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 ต.ค.
แม้ว่าการส่งออกเหล็กคาดว่าจะลดลงในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ผู้ซื้อขายในตลาดกล่าวว่า การส่งออกเหล็กทั้งปีนี้ของจีนมีแนวโน้มที่จะทะลุ 100 ล้านตัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016
ในเดือนกันยายนการส่งออกเหล็ก เพิ่มขึ้น 6.9% จากเดือนสิงหาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
ในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน การส่งออกเหล็กสำเร็จรูปของจีนเพิ่มขึ้น 21.2% หรือ 14.106 ล้านตัน เทียบจากปีก่อนหน้า มีปริมาณที่ 80.711 ล้านตัน
การส่งออกเหล็กรายวันโดยเฉลี่ย อยู่ที่ 294,566 ตัน นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน หากค่าเฉลี่ยยังอยู่ระดับนี้จนถึงช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม การส่งออกเหล็กสำเร็จรูปทั้งหมดของจีน ในปี 2024 อาจสูงถึง 107.81 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 19.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ผู้ซื้อขายในตลาดบางรายกล่าวว่า ราคาเหล็กที่สามารถแข่งขันได้ของจีน ซึ่งเกิดจากตลาดภายในประเทศที่อ่อนแอปูทางสู่การส่งออกที่แข็งแกร่ง การสั่งจองจากเวียดนาม และการเร่งจัดส่งที่ในเดือนกันยายน เกิดจากการไต่สวน anti-dumping ของเวียดนาม สำหรับเหล็กแผ่นรีดร้อน (hot-rolled coils) จากจีน ก็มีส่วนทำให้การส่งออกเหล็กในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“การจัดส่งไปยังเวียดนามคาดว่าจะลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนตุลาคม เนื่องจากเวียดนามอาจใช้ภาษี anti-dumping ซึ่งจะมีผลสำหรับการจัดส่งในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป” เทรดเดอร์กล่าว
เทรดเดอร์กล่าวว่า “หากภาษี anti-dumping สูงพอที่จะสกัดเหล็กแผ่นรีดร้อนจากจีนส่วนใหญ่ในตลาดเวียดนามได้นั้น การส่งออกเหล็กทั้งหมดของจีนมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปี 2025” ผู้ค้ากล่าวเสริม
จากข้อมูลของ Global Trade Analytics Suite ของ S&P Global ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม จีนส่งออก HRC จำนวน 5.57 ล้านตัน ไปยังเวียดนาม เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
หากแนวโน้มนี้ยังคงอยู่ การส่งออก HRC ของจีน ไปยังเวียดนามอาจทำสถิติสูงสุดในปี 2024 หลังจากแตะจุดสูงสุดที่ 6.96 ล้านตัน ในปี 2023
นอกจากการส่งออกไปยังเวียดนามที่อาจลดลงในช่วงที่เหลือของปี 2024 แล้ว ผู้ค้าบางรายตั้งข้อสังเกตว่า การส่งออกเหล็กโดยรวมของจีนอาจลดลงในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากคำสั่งจองซื้อจากต่างประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ลดลง
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของจีนซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 24 กันยายน ได้ผลักดันราคาเหล็กให้สูงขึ้น ซึ่งทำให้ความสนใจในการซื้อจากต่างประเทศลดลง และซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมของจีน